นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว “Chaturon Chaisang” ระบุถึง กรณีกระแสข่าวการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ในนามส่วนตัว ว่า ตนได้ออกจากพรรคเพื่อไทย มาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ปี 2562 ในช่วงปลายปี 2561 เพื่อมาอยู่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ต่อมาพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ ตนไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง เพราะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค จึงยังทำงานการเมืองต่อได้

ทั้งนี้หลังจากการเลือกตั้ง ตนได้ใช้เวลาทั้งหมด ในฐานะนักการเมืองที่ไม่มีสังกัดพรรค ในการพูดคุยกับนักการเมือง นักธุรกิจ อดีตข้าราชการ รวมถึงคนรุ่นใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาบ้านเมือง ปรับความคิด ซึ่งบางทีก็ใช้ความรู้เหล่านี้ ในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเรื่อยมา จนกระทั่ง มีความเห็นร่วมกันว่าจะต้องตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาอีก เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน

"แนวทางหลักๆของพรรคที่กำลังจะมีขึ้นในอนาคต ก็ยังคงอยู่บนแนวทางหลัก คือแนวทางประชาธิปไตย พัฒนาบ้านเมือง แก้ปัญหาเศรษฐกิจด้านต่างๆ อาศัยบุคคลและประสบการณ์ต่างๆจากในอดีต ประสานกับคนรุ่นใหม่เพื่อนำมาต่อยอดเป็นนโยบายที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในอนาคต" นายจาตรุนต์ กล่าว

 สำหรับ พรรคการเมืองดังกล่าว ที่จะจัดตั้งขึ้นในอนาคต ไม่ใช่พรรคสาขาของพรรคเพื่อไทย และเป็นอิสระจากพรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่ใช่พรรคไทยรักษาชาติ 2 ไม่ใช่พรรคที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแกปัญหาให้เพื่อไทย อันเนื่องด้วยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ไม่ใช่การรวมกันของกลุ่มคนเดือนตุลา ไม่ใช่การรียูเนียน แต่จะเป็นรวมคนที่หลากหลาย ที่จะร่วมกันสร้างพรรคการเมืองเพื่อประชาชน

ขณะที่กรณีที่มีการพูดถึง น.พ.สุรพงษ์ สืบวงค์ลี น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุรเดช หรือ นายภูมิธรรม เวชชยชัย ที่มีกระแสข่าวว่าจะตั้งพรรคการเมือง ในแนวทางเดียวกันหรือไม่ นายจาตรุนต์ กล่าวว่า เราเคยร่วมงานการเมืองด้วยกันมาหลายสิบปี แต่ไม่ได้มีการพูดคุยเพื่อจะตั้งพรรคการเมืองร่วมกัน เราเป็นอิสระต่อกัน แต่ยังเดินบนวิถีทางประชาธิปไตยร่วมกัน ซึ่งถ้าหากในอนาคต หากจะมีโอกาสร่วมงานทางการเมืองกัน ก็มีความเป็นไปได้อยู่แล้ว เช่นเดียวกับการร่วมงานกับทุกพรรค และทุกกลุ่มการเมือง ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน

สำหรับกรณีก่อนหน้านี้ ที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน ที่ออกมายอมรับในกรณีการพูดคุยเพื่อตั้งพรรคการเมือง นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ก็มีการพูดคุย พบปะ กันเป็นประจำปกติ ในเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง เช่นเดียวกับคนอื่นๆ แต่ไม่ได้คุยถึงเรื่องแผนการทำพรรคการเมืองที่ชัดเจน